1. แบตเตอรี่น้ำ

เป็น แบตเตอรี่รถยนต์ ที่ ร้านค้า จะมีการเติมน้ำกรด และ ชาร์จไฟเอง แบตเตอรี่ น้ำ ต้องหมั่นดูแลอย่าให้ น้ำของแบตเตอรี่ แห้งไม่เช่นนั้น แบตเตอรี่ จะเสียเร็ว

จุดเด่น

*ราคาถูกกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ทุกประเภท

จุดด้อย

*ต้องหมั่นดูแลรักษาระดับน้ำ แรงสตาร์ทน้อย แอมป์น้อย

วิธีการดูแลรักษา แบตเตอรี่ น้ำ

*หมั่นเติมน้ำกลั่น ให้ได้ระดับ โดยเฉลี่ย ประมาณ 1 เดือน ครั้ง

*ระมัดระวังเรื่องของการ ลืมเปิดไฟทิ้งไว้

2. แบตเตอรี่ ไฮบริด

เป็นแบตเตอรี่ ที่ ร้านค้า จะมีการเติมน้ำกรด และ ชาร์จไฟเอง หรือ ชาร์จไฟมาจากโรงงานแล้ว แบตเตอรี่ ไฮบริด ต้องหมั่นดูแล บ้าง เฉลี่ย ประมาณ 6-9 เดือน เติมน้ำกลั่นซักครั้ง ในอนาคตคาดว่า แบตเตอรี่ไฮบริด จะเข้ามาแทน แบตเตอรี่ น้ำ ทั้งหมด

จุดเด่น

*ดูแลรักษาระดับน้ำน้อย ราคาถูก แรงสตาร์ทสูงกว่าแบตเตอรี่น้ำ

จุดด้อย

*ราคาไม่ได้แตกต่างกับ แบตเตอรี่กึ่งแห้ง ยังต้องดูแลรักษาระดับน้ำ

วิธีการดูแลรักษา แบตเตอรี่ น้ำ

*ดูแลน้ำกลั่น ให้ได้ระดับ โดยเฉลี่ย ประมาณ 6 เดือน ครั้ง

*ระมัดระวังเรื่องของการ ลืมเปิดไฟทิ้งไว้

3. แบตเตอรี่กึ่งแห้ง

เป็นแบตเตอรี่ ที่มีการ เติมน้ำกรด และ ชาร์จไฟ มาจากโรงงานเรียบร้อยแล้ว แบตเตอรี่ กึ่งแห้ง เป็น แบตเตอรี่ ที่ติดรถยนต์ใหม่ ออกมาจากโรงงาน แบตเตอรี่ กึ่งแห้ง ดูแลรักษาน้อย เฉลี่ย ประมาณ 1 ปี สังเกตุ ระดับน้ำกลั่น ซักครั้งหนึ่ง

จุดเด่น

*ดูแลรักษาระดับน้ำน้อย แรงสตาร์ทสูงกว่าแบตเตอรี่น้ำ แอมป์สูง ราคาประหยัด เป็นแบตเตอรี่ชนิดเดียวกับแบตรถใหม่

จุดด้อย

*ยังต้องดูแลรักษาระดับน้ำ

วิธีการดูแลรักษา แบตเตอรี่ น้ำ

*สังเกตุระดับน้ำ โดยเฉลี่ย ประมาณ 12 เดือน / ครั้ง

*ระมัดระวังเรื่องของการ ลืมเปิดไฟทิ้งไว้